ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ตอนนี้ผมเป็นช่างภาพทีวี สายข่าวบันเทิงของทีวีดิจิตอลช่องหนึ่ง ประสบการณ์ก็ยังไม่ได้มากมายอะไร เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ๆ ที่อยู่ในวงการนี้มาก่อนเรา แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์สำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นช่างภาพข่าว ไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือหนังสือ นะครับ
ก่อนที่ผมจะมาอยู่สายบังเทิงนั้น ผมเป็นช่างภาพทีวีสายข่าวกีฬาของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางข่าวกีฬามาก่อนครับ แต่กว่าจะได้เข้าก็รออยู่นานกว่าเค้าจะเรียก (เอาง่ายๆ ก็คือว่างงานอยู่เกือบปีหลังจากเรียนจบ) เนื่องจากงานสายนี้ถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องมีเส้นสายอยู่พอสมควรถ้าจะจบมาแล้วได้งานสายนี้เลย ซึ่งผมก็พยายามหางานอย่างอื่นทำด้วยนะ แต่มันก็มีแต่งานเซลล์ที่ชอบโทรมาเรียกตัวไปสัมภาษณ์ เนื่องจากเราไปโพสประวัติตามเว็บหางานต่างๆ (แต่ก็เอาเถอะถ้าเรายังยืนยันที่จะทำตามฝันของเราสักวันมันก็มาเอง) พอได้เข้าไปเป็นช่างภาพจริงๆ เริ่มงานวันแรกของที่นั่นผมไม่เคยลืมเลย
กับการได้ออกไปถ่ายการแข่งฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ด้วย (แย่ละกรูไม่เคยถ่ายสักดิวิชั่น) ผมก็โดนรับน้องนิดหน่อย (ถือว่าโชคดี) ซึ่งของผมก็โดนขู่เล็กๆ น้อยๆ ว่า "อย่าพลาดนะว่อยลูกยิงอ่ะ" "ช็อตเด็ดๆ ก็ห้ามพลาด" และอีกหลายๆอย่าง ซึ่งการออกไปถ่ายบอลแต่ละครั้งตอนนั้นต้องเบิกเทปไป ผมเลยจัดไปเลย 2 ม้วน กดแบบเต็มๆ เกมส์ (เอาดิว่ะพลาดก็ให้มันรู้ไป 555) แต่โชคดีที่การออกไปถ่ายเกมส์แข่งบอลครั้งแรกของผมผลออกมา เสมอ 0-0 ผมเลยชิวไป แต่!!! บอกเลยว่าก่อนจะชิวผมตื่นเต้นมาก ไม่มีนักข่าวไปด้วย ช่างภาพไปกับผู้ช่วยช่างภาพแค่ 2 คน เริ่มเดินทาง อ้าวชิหายแล้ว!!! สนามที่ใช้แข่งอยู่ตรงไหนว่ะรู้แค่ว่าอยู่บริเวณไหนเอง เราก็ช่างภาพใหม่สายนี้ ไม่รู้ซะด้วย(พลาดอย่างแรงที่ไม่ได้ศึกษาสถานที่ก่อน) เราก็คิดว่าพี่ผู้ช่วยเรารู้ อ้าว!!! พี่แกก็ไม่รู้ เบอร์พี่ๆ ช่างภาพที่เราพอจะโทรขอความช่วยเหลือได้ก็ไม่มี ตายละกรู เอาไงดีว่ะ ยังโชคดีที่พี่แกมีเบอร์ของพี่ผู้ช่วยคนอื่นอยู่บ้างก็เลยได้ไปถึงสนามแข่งทันเวลาแบบเฉียดฉิว
นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ควรจะรู้ไว้ว่าสถานที่ๆ เราต้องไปนั้นอยู่ตรงไหนอย่างไร ไม่ใช่ว่าจะหวังพึ่งแต่ผู้ช่วยเราให้เขาพาไปตลอดซึ่งบางคนเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวมันจะแย่เอาเวลาเดินทาง แล้วมันจะไปไม่ทันงานเริ่ม คราวนี้ล่ะ งานงอกหนักกว่าเดิม สบายใจไปล่ะ
ช่างภาพทีวีปัญหาอีกอย่างนึงที่น้องใหม่จะโดนรับน้อง คือ... โดนรุ่นพี่บางคนวางยาที่กล้อง โชคดีที่ผมไม่เคยโดน และก่อนจะออกงานผมจะไปเบิกกล้องมาทันทีหลังจากที่รู้หมายว่าในวันนี้เราจะออกไปทำข่าวที่ไหน เพื่อเป็นการเซฟตัวเอง เผื่อกล้องหมดด้วย (เนื่องจากบริษัทก็ไม่ได้มีกล้องตามจำนวนช่างภาพพอดีเป๊ะ) หรือเผื่อเราโดนวางยาเราจะได้แก้ไขทัน หารุ่นพี่ที่ใจดีถามเอาว่าถ้ากล้องเป็นอย่างนี้ กด ตั้งค่าอะไรยังไงตรงไหน (สำหรับน้องๆ จบใหม่ที่เรียนนิเทศฯ มาแต่ไม่เคยได้จับกล้องวิดีโอเลย)
เวลาเป็นสิ่งสำคัญของช่างภาพทีวีอีกอย่างนึง เพราะถ้าไปไม่ทันแล้วงานจะงอก อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ถ้าไปไม่ทันแล้วเราจะเอาภาพจากไหนกลับไปส่งออฟฟิศล่ะเราก็ช่างภาพใหม่ (อาจจะได้หางานใหม่อีกล่ะทีนี้ T_T) ดังนั้นผมเลยกลายเป็นคนที่เผื่อเวลาเดินทางนานมากเวลาได้ออกไปงานข่าว เพราะผมถือว่าไปรอก่อนดีกว่าไปสาย
นี่ก็เป็นประสบการณ์ของผมเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยผ่านมาสมัยเป็นน้องใหม่ มาเล่าผ่านบล็อกนี้ สำหรับน้องๆ ที่อยากจะเป็นช่างภาพข่าวทีวี หรือคนที่อยากรู้ว่าช่างภาพเขาทำงานกันอย่างไร สำหรับตอนหน้าผมจะมีอะไรมาฝากอีกก็ติดตามกันได้นะครับ